วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554

สถาปัตยกรรม


สถาปัตยกรรม (Architecture) เป็นผลงานศิลปะที่แสดงออกด้วยการก่อสร้างสิ่งก่อสร้าง อาคาร ที่อยู่อาศัยต่าง ๆ การวางผังเมือง การจัดผังบริเวณ การตกแต่งอาคาร การออกแบบก่อสร้าง ซึ่งเป็นงานศิลปะ ที่มีขนาดใหญ่ต้องใช้ผู้สร้างงานจำนวนมาก และเป็นงานศิลปะ ที่มีอายุยืนยาว สถาปัตยกรรม เป็นวิธีการจัดสรรบริเวณที่ว่างให้เกิดประโยชน์ใช้สอยตามความต้องการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ ศาสตร์ในสาขาต่าง ๆ เช่น วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมวิทยา มานุษยวิทยา และศิลปะ ความงดงาม และคุณค่าของสถาปัตยกรรม ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ ดังนี้ คือ

1. การจัดสรรบริเวณที่ว่างให้สัมพันธ์กันของส่วนต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก
2. การจัดรูปทรงทางสถาปัตยกรรมให้เหมาะสมกับประโยชน์ใช้สอย และสิ่งแวดล้อม
3. การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสมกลมกลืน


สถาปัตยกรรมแบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ
1. ชนิดที่สร้างขึ้นเพื่อให้มนุษย์เข้าไปอาศัยอยู่ หรือประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เช่น อาคาร บ้านเรือน โบสถ์ วิหาร ศาลา ฯลฯ
2. ชนิดที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ใช้สอยอย่างอื่น ๆ เช่น อนุสาวรีย์ เจดีย์ สะพาน เป็นต้น ผู้สร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรม เรียนว่า สถาปนิก (Architect)


วิชาชีพสถาปัตยกรรมในประเทศไทย
สถาปนิกเป็น วิชาชีพที่มีการควบคุมภายใต้พระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 โดยมีสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (Association of Siamese Architects) สถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2477 เป็นศูนย์กลางในการส่งเสริมวิชาชีพด้านสถาปัตยกรรมและติดต่อประสานงานระหว่างสถาปนิกด้วยกัน ส่วนสภาสถาปนิก (Council of Architects) มีหน้าที่ออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม (ก.ส.) รับรองคุณวุฒิ รวมทั้งควบคุมจรรยาบรรณวิชาชีพของสถาปนิก
มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์

รายชื่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ในประเทศไทย มหาวิทยาลัยทั้งหมดที่เปิดสอน
รายชื่อคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยชั้นนำส่วนหนึ่งที่เปิดสอน

สถาปัตยกรรมศาสตร์ กับ ฮวงจุ้ย
สถาปัตยกรรมศาสตร์ในบางส่วนจะมีการใกล้เคียง กับการศึกษาฮวงจุ้ยศาสตร์ของชาวจีนในการวางตำแหน่งอาคารโดยที่เน้นศึกษา ลม(ฮวง) และน้ำ(จุ้ย) ในการออกงานในทางสถาปัตยกรรม มีการศึกษาทิศทางของลม ทิศทางของแสงแดด แนวทางของน้ำ และสถาพแวดล้อมอื่นๆ เพื่อให้การดำรงอาศัยของมนุษย์อยู่ใน สภาวะอยู่สบาย ตัวอย่างการออกแบบทางสถาปัตยกรรม ได้แก่ การวางตัวของอาคารเพื่อให้มีการหมุนเวียนของลม เพื่อป้องกันการสะสมของอากาศเก่า จะทำให้ผู้อยู่อาศัยป่วยเป็นโรค หรือการวางตัวของอาคารในทิศทางที่ไม่ปะทะ กับลมหรือแสงแดด โดยตรง เพื่อให้ระบบสภาวะอากาศภายใน ไม่หนาวหรือร้อนเกินไปทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความไม่สบายเช่นกัน

นายรัฐพงษ์ ข่าขันมะลี ชั้นม.5/2 เลขที่ 9

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น